เมืองไทยมีสถานที่ท่องสวยๆ ให้เราออกเดินทางไปสัมผัสความสวยงามกันได้ตลอดทั้งปี แต่มีสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งที่สวยงามและเห็นแล้ว ไปป่ะล่ะ! ต้องขอบอกว่า ไปที่นี่สักครั้งกันเถอะ เพราะมันสวยและดูยิ่งใหญ่เกินคำบรรยายจริงๆ
1.วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว จ.เพชรบูรณ์
เป็นวัดที่ตั้งเด่นตระหง่านท่ามกลางทะเลหมอกและธรรมชาติที่สวยงามของเขาค้อ ซึ่งจะประกอบไปด้วยเจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว สิริราชย์ธรรมนฤมิต โดยบนยอดเจดีย์จะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุซึ่งได้รับประทานมาจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก, มหาวิหารพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ซึ่งมีความสวยงาม
และเป็นเสมือนอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเขาค้อ, ศาลาพระหยกเขียว ศาลาปฏิบัติธรรมรูปทรงจตุรัสโปร่ง รายรอบด้วยบานกระจกขนาดใหญ่ เพื่อให้สัมผัสกับธรรมชาติของขุนเขาเขียวชอุ่ม พร้อมทั้งมีสวนดอกไม้และต้นไม้นานาพันธุ์ที่ไว้ประดับตกแต่งให้สถานที่แห่งนี้มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นสถานปฏิบัติธรรมที่สวยงามทั้งบรรยากาศ ประติมากรรมที่สักครั้งหนึ่งในชีวิตควรจะมาสัมผัสกัน
ที่ตั้ง : 95 ม.7 บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
โทรศัพท์ : 08 4494 1262
เว็บไซต์ : www.phasornkaew.org
2.วัดเฉลิมพระเกียรติฯ จ.ลำปาง
เป็นวัดที่สร้างความอันซีนให้แก่นักท่องเที่ยวจริงๆ สำหรับวัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ ซึ่งที่วัดแห่งนี้มีความพิเศษตรงที่เจดีย์สีทองที่สร้างขึ้นบนภูเขาสูงเสียดฟ้า ล้อมรอบไปด้วยสายหมอกและทิวเขาสูง บนยอดเขาแห่งนี้มีรอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของชาว อ.แจ้ห่ม มาอย่างยาวนาน
โดยภายในบริเวณวัดจะแบ่งออกเป็น 3 ชั้นคือ วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ ส่วนชั้นสองก็จะเป็นภูผาหมอกหรือดอยจิหมอก และดอยพระบาท ซึ่งเป็นจุดที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่โอบล้อมรอบตัววัดได้อย่างชัดเจน ใครที่อยากสัมผัสกับความสวยงามแบบอันซีนของวัดเฉลิมพระเกียรติฯ ห้ามพลาดเด็ดขาด
ที่ตั้ง : อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง
โทรศัพท์ : 053 276140-2 (ททท.สำนักงานเชียงใหม่)
3.วัดป่าภูก้อน จ.อุดรธานี
สถานที่ปฏิบัติธรรมที่ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสม ซึ่งวัดแห่งนี้เกิดขึ้นจากความตระหนักถึงคุณประโยชน์ของธรรมชาติและป่าต้นน้ำลำธาร จึงต้องการรักษาความสมบูรณ์ของป่าไม้ให้เป็นมรดกคู่แผ่นดินไทย ที่วัดป่าภูก้อนจึงเป็นสถานที่ที่สงบเหมาะแก่การบำเพ็ญภาวนาของพระสายกรรมฐาน
ภายในวัดมีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุในพระเกศพระร่วงโรจน์ศรีบูรพา เป็นประธานประดิษฐานหน้าองค์พระปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์ และมีพระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนีเป็นพระพุทธรูปปางปรินิพพานมีลักษณะอ่อนช้อยงดงาม นับว่าเป็นความงามที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติได้อย่างลงตัวและสมบูรณ์แบบจนต้องแวะมาสักครั้งในชีวิตให้ได้
ที่ตั้ง : อ.นายูง จ.อุดรธานี
โทรศัพท์ : 08 1866 9752, 08 1184 3743
เว็บไซต์ : www.facebook.com/watpaphukon
4.วัดภูทอก จ.บึงกาฬ
จังหวัดน้องใหม่ก็ไม่น้อยหน้า มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สักครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไปเช่นกันอย่าง วัดภูทอก หรือ วัดเจติยาคีรีวิหาร เป็นวัดที่เงียบสงบและแวดล้อมด้วยธรรมชาติที่อุมดสมบูรณ์ ภูทอกจะแบ่งออกเป็น 2 ลูกคือ ภูทอกใหญ่และภูทอกน้อย ซึ่งพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะสามารถชมความงดงามของสถานที่ได้คือภูทอกน้อย
ส่วนภูทอกใหญ่ยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชม จุดเด่นของวัดภูทอกคือ สะพานไม้และบันไดขึ้นชมทัศนียภาพรอบๆ ภูทอกแบบชัดเจน 360 องศา มีทั้งหมด 7 ชั้น โดยชั้นบนจะมีพระพุทธรูปสำหรับสักการะและบริเวณพื้นที่สำหรับปฏิบัติธรรม ใครที่อยากมาสัมผัสความงดงามของวัดภูทอก อีกหนึ่งอันซีนของไทยก็สามารถมาได้ที่ จ.บึงกาฬ
ที่ตั้ง : อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ
5.วัดเขาวงพระจันทร์ จ.ลพบุรี
เป็นวัดที่ขึ้นชื่อในเรื่องของภูเขาที่สูงที่สุดใน จ.ลพบุรี โดยสูงจากระดับน้ำทะเล 650 เมตร และถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญที่เมื่อใครมาเที่ยว จ.ลพบุรี แล้วต้องมากราบไหว้รอยพระพุทธบาทที่อยู่บนยอดเขาสูงด้วยบันได 3,790 ขั้น และเมื่อไปถึงยอดสูงสุดของเขาแล้ว
บอกได้คำเดียวว่านี่คือสวรรค์บนดินที่สวยงามและน่าประทับเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับแรงที่เสียไปจริงๆ ใครที่มาเที่ยว จ.ลพบุรี ก็อย่าลืมแวะมาชมความงดงามและทดสอบพลังศรัทธากันได้ที่วัดเขาวงพระจันทร์ จ.ลพบุรี
ที่ตั้ง : ต.ห้วยโป่ง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี
โทรศัพท์ : 036 770096-7 (ททท.สำนักงานลพบุรี)
เว็บไซต์ : www.facebook.com/Tat-Lopburi
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น